สวัสดีปี 2558...เย้...เย...ออนริน....(เทอ..)...กลับมาแล้วว...ว...ว....
หายไปเพราะมันมีช่องทางเยอะแยะในการสื่อสารกันไง...ง่ายกว่า..สนุกกว่า...?
หายไปเพราะ....แบ่งเวลาไม่ดีไง....(ธรรมดา...เป็นทุกคน..ว่ามะ..>>)
กลับมา..เพราะว่า..ยังชอบการ สโลว์ไลฟ์อยู่...
บ่นพอแล้ว ...พูดเรื่องแตงโมดีกว่า...เราชอบกินแตงโม...และน้ำแตงโมปั่น.. ฟินสุดๆ
แตงโม จัดเป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับ แคนตาลูป ฟักทอง แตงกวา ซึ่งนักพฤกษศาสตร์จัดให้อยู่ในวงศ์แตง (Family CUCURBITACEAE) เป็นผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่ในปริมาณมากจึงมีคุณสมบัติเย็น รับประทานแล้วหวานชื่นใจ สำหรับประโยชน์ของแตงโมนั่นก็เช่น ช่วยลดอาการไข้ คอแห้ง รักษาแผลในปาก เป็นต้น และยังเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกด้วยเพราะอุดุมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด อย่างเช่นวิตามินเอ ซี วิตามินบีรวม แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น
มีสารอีกชนิดหนึ่งที่สำคัญอย่างมากนั่นก็คือ Citrulline (ซิทรูไลน์) ซึ่งจะพบสารนี้ในเปลือกมากกว่าส่วนของเนื้อ ดังนั้นการรับประทานแตงโมที่มีส่วนเปลือกขาวๆติดมาด้วยก็จะเป็นประโยชน์ที่ดีมากกว่าที่จะกินแต่เนื้อสดๆ สำหรับประโยชน์ของสารนี้ก็คือ จะช่วยขยายเส้นเลือด ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันและยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนอีกด้วย เพราะมีแคลอรี่ต่ำมาก อย่างไรก็ตามก่อนที่เราจะผ่าแตงโมรับประทานควรจะล้างเปลือกให้สะอาดเสียก่อนเพื่อป้องกันสารพิษตกค้างซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
มีงานวิจัยว่าในเนื้อและเปลือกของแตงโมมีสารออกฤทธิ์ที่ทำงานคล้ายกับไวอากร้า หากบริโภคเข้าไปมากๆ สาร Citrulline ในแตงโมจะทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ในร่างกายทำให้เกิดกรดอะมิโนอาร์จินีนขึ้นมา ซึ่งออกฤทธิ์กระตุ้นทำให้หลอดเลือดคลายตัวและทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้นคล้ายๆกับฤทธิ์ของไวอากร้า
นอกจากนี้แตงโมยังพอกหน้าได้นะ ใช้ทำเป็นทรีทเม้นท์บำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า และลดอาการแสบแดง วิธีการง่ายๆ เพียงแค่นำเนื้อแตงโมมาฝานบางๆ แล้วนำมาวางไว้บนผ้าขาวบาง จากนั้นนำมาวางปิดลงบนใบหน้าให้ทั่วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, หนังสือผลไม้ 111 ชนิด คุณค่าอาหารและการกิน (นิดดา หงส์วิวัฒน์, ทวีทอง หงส์วิวัฒน์), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
คิดอยู่ว่า..ถ้าเรารู้เรื่องการดูแลตัวเองเยอะๆ ทั้งอาหารการกินที่เป็นยา..หรือหลักการดูแลตัวเอง ต่างๆ มันดีกว่าที่เราต้องพึ่งพาคนอื่นนะ..ตนก็ต้องเป็นที่พึงแห่งตน น่ะถูกแล้ว...ที่เราเป็นนั่นเป็นนี่..แล้วปล่อยตัวเองให้อ่อนแอ อยู่กับความไม่รู้...เราว่าเราจะเลิกซะทีละ
ลาไปก่อน...พบกันใหม่เสาร์หน้า...(ตั้งเงื่อนเวลา เพื่อวินัยในการพาตัวเองมาที่นี่....บาย..น๊า...)
